สำนักบริการวิชาการ มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ร่วมกับธนาคารออมสิน เปิดเวทีนำเสนอผลการดำเนินโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น ปี 2568 เพื่อเฟ้นหาสุดยอดทีมที่ส่งเสริมการนำองค์ความรู้ไปยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการชุมชน โดยทีม “ต่างสาย แต่ฝันเดียว” คว้ารางวัล The Best ผลักดันผลิตภัณฑ์เยลลี่กัมมี่มังคุดสู่ความสำเร็จ
เมื่อวันที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2568 ณ ลานอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 36 มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วยากร อุดมโภชน์ รองอธิการบดี ด้านวางแผนและพัฒนา ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิดเวทีนำเสนอผลการดำเนินโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่น 2568 ซึ่งดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 6 ด้วยความมุ่งมั่นที่จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นอย่างยั่งยืน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.วยากร กล่าวว่า “มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณีมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนภารกิจสำคัญนี้ เราเชื่อมั่นในพลังของคณาจารย์และนักศึกษาที่จะนำองค์ความรู้ทางวิชาการและนวัตกรรมใหม่ๆ ไปบูรณาการร่วมกับภูมิปัญญาและทรัพยากรท้องถิ่น ผลลัพธ์ที่ปรากฏในวันนี้ ไม่เพียงแต่สะท้อนถึงศักยภาพของนักศึกษาเท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันว่าการทำงานร่วมกันระหว่างสถาบันอุดมศึกษาและสถาบันการเงินสามารถสร้างคุณค่าและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนได้อย่างแท้จริง”
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์สุทธินันท์ โสตวิถี ผู้อำนวยการสำนักบริการวิชาการ กล่าวเสริมว่า “โครงการนี้ถือว่าบรรลุเป้าหมายอย่างสมบูรณ์ในการสร้างนักพัฒนาท้องถิ่นรุ่นใหม่ โดยนักศึกษาและอาจารย์ได้ลงพื้นที่ปฏิบัติจริงในจังหวัดจันทบุรีและจังหวัดตราด เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาและพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของตลาด การนำเสนอในรอบสุดท้ายของทั้ง 6 ทีม ล้วนแสดงให้เห็นถึงความทุ่มเทและความคิดสร้างสรรค์ โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์เยลลี่กัมมี่มังคุดจากทีม ต่างสาย แต่ฝันเดียว ที่ได้รับรางวัล The Best ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความสำเร็จในการเปลี่ยนวัตถุดิบท้องถิ่นให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทันสมัยและมีมูลค่าเพิ่ม”
มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี ขอเชิญผู้ที่สนใจติดตามข่าวสารและผลงานสร้างสรรค์อื่นๆ จากโครงการความร่วมมือเพื่อสังคมได้ทางช่องทางการสื่อสารของมหาวิทยาลัย ซึ่งโครงการออมสินยุวพัฒน์รักษ์ถิ่นนี้ ตอกย้ำถึงวิสัยทัศน์ของมหาวิทยาลัยฯ ในการเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และการสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสังคม โดยตลอด 6 ปีที่ผ่านมาได้สร้างสรรค์ผลงานมากมายที่ช่วยยกระดับขีดความสามารถและสร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการชุมชนอย่างยั่งยืน และพร้อมที่จะก้าวต่อไปในการเป็นแหล่งความรู้ที่สร้างสรรค์นวัตกรรม ซึ่งนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและคุณภาพชีวิตของชุมชนในท้องถิ่นอย่างเป็นรูปธรรม
